เตรียมนำอู่ข้าวอู่น้ำภาคกลางกลับคืนมา http://www.ainews1.com/article575.html   แสดงพื้นที่เปลือกโลกเอเชียทรุดตัว 20-80 ฟุต พื้นที่ภาคกลางตั้งอยู่ระหว่างเทิอกเขาทางทิศตะวันตกและตะวันออก และเปลือกโลกส่วนนี้บาง เมื่อถูกแรงอัดจึงหักจมลงตรงกลาง ...คือพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด เช่นเดียวกับท่านกำลังถือกระดาษแข็งด้วยมือซ้ายและขวา แล้วค่อยๆใสแรงอัดให้มือทั้งสองข้างดันขอบกระดาษแข็งเข้าหากัน แผ่นกระดาษแข็งจะโค้งลงและหักกลางเมื่อเปลือกโลกมันไม่เหนียวเป็นแผ่นยางยืด ภาคกลางจึงจมลง เมื่อมีทั้งแรงกด และแผ่นดินไหว เช่นเกิดแผ่นดินไหวที่แถบเชียงรายเมื่อปลายเดือน มีนาคม 2554 ส่งแรงสั่นสะเทือนลงมาที่พื้นที่ กทม. ทำให้ถนนลาดพร้าวและพื้นที่หน้าแม๊คโครบางกะปิแตกร้าวให้เห็น นี่เป็นสัญญาณเตือนชาว กทม. ที่ติดตามในเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่กำลังเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ว่าในอนาคตพื้นที่ กรุงเทพจะจมลงไปอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล การทรุดตัวของปลายแผ่นยูเรเชี่ยนซึ่งประเทศอินโดนีเซียจะหายไปในอนาคต อยู่ๆจะเตรียมนำอู่ข้าวอู่น้ำภาคกลางกลับคืนมา ? มันเรื่องอะไรกัน เสียสติไปหรือเปล่า? สำหรับผู้ที่ไม่ประมาท ลองมาดูความเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เช่นที่เมืองไครซ์เชิร์ท ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อเร็วๆนี้ ที่ภาคตะวันออกของเกาะฮอนชู ในภาคเหนือของญี่ปุ่น ที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เกือบ 9 ริกเตอร์ทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้าที่นั่นเกิดการระเบิด ปล่อยกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ออกมา ต้นทางของปัญหามาจากแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่น ที่มาบรรจบกันที่บริเวณใต้ทะเลทางทิศตะวันออกของเกาะฮอนชูไม่กี่สิบกิโลเมตร ได้เคลื่อนตัวมาขบดันกันขึ้น จนถึงขั้นแตกหักมีการมุดตัว และเกยกันขึ้น ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ตามมา ทำให้คนในญี่ปุ่นล้มตายและสูญหายกว่า 20,000 คน ทั้งๆที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้สร้างกำแพงกันคลื่นสึนามิเอาไว้ล่วงหน้าอย่างดี กลับใช้การไม่ได้ เนื่องจากแผ่นดินชายทะเลส่วนที่สร้างกำแพงเตรียมเอาไว้เกิดทรุดตัวลงไปหลายเมตร กำแพงจึงจมน้ำ เหมือนกับไม่มีกำแพงป้องกันคลื่นเหลืออยู่เลย ทีนี้หันกลับมาดูว่าแผ่นเปลือกโลกตรงไหนกำลังจมตัวลงบ้าง  ผู้เชี่ยวชาญที่มาช่วยชาวโลกดูแลเตือนภัยล่วงหน้า ในเรื่องเตรียมส่งข่าวการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตใกล้ๆนี้ ได้สรุปรายงานเอาไว้ว่า ตั้งแต่เมืองหังซู่ เมืองชายฝั่งทางประเทศจีนตะวันออก ในแผนที่รูปบนสุดทางมุมขาวมือลงมา ถึงตอนเหนือสุดของประเทศไทย พื้นที่ส่วนนี้ทั้งหมด จะจมลงไปประมาณ 40 ฟุต และระหว่างที่โลกหยุดหมุนเพื่อปรับตัวเนื่องด้วยอิทธิพลลของดาวหางดางใหญ่กว่าโลก 4 เท่า มีมวลมากกว่าโลก 23 เท่า โคจรเข้ามาใกล้โลก และโคจรรอบดวงอาทิตย์สวนทางกับโลก อยู่ใกล้กับวงโคจรของโลกมาก ซึ่งดาวหางอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และโลก ด้วยอิทธิพลแรงดึงดูดสนามแม่เหล็ก ที่มีพลังดูดสูงผิดปกติ ในจังหวะที่ดาว 2 ดวงกำลังโคจรคู่ขนานกันอยู่นั้น ทำให้โลกค่อยๆหยุดหมุนรอบตนเอง และเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกมาหลายวันก่อนหน้านั้น จนมาถึงชั่วโมงที่เดินทางสวนกันอย่างใกล้ชิด ชาวโลกแถบยุโรปและอเมริกาตะวันออกจะมองเห็นดาวหางสีแดงดวงใหญ่มาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่จะมองเห็นดาวหางใกล้ที่สุด และยังมีหางยาวใหญ่กระจายฝุ่นพิษต่างๆออกมาตลอดเวลาอีกด้วย โลกก็จะประสบแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และภัยอันตรายต่างๆอีกนาๆชนิด ที่ไม่ได้นำมากล่าวถึงอีกนานับประการทีเดียว...ผู้สนใจติดตามได้ที่ลิงค์นี้ เป็นการปรับสมดุลโลกใหม่ทุกๆ 3,657 ปีโดยประมาณ ที่จะมีดาวหางดวงนี้ซึ่งเป็นสมาชิกอีกดวงหนึ่งของสุริยจักรวาล ที่พระอาทิตย์จับเอาไว้ จะมาโคจรรอบดวงอาทิตย์ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่โลก และดาวเคราะห์ดวงต่างๆที่อยู่ใกล้ไกลดาวหางดวงนี้ ซึ่งเคยมาปรากฏโฉมหน้าไกลๆจากนอกขอบสุริยจักรวาล ในเดือนมิถุนายนปี 2003-4 ได้เคยเล็งสนามแม่เหล็กตรงมายังโลก ทำให้เกิดวิกฤตต่างๆมากมายขึ้นทั่วโลกมาแล้ววาระหนึ่ง ทั้งๆที่ยังอยู่ห่างไกล ขอบสุริยจักรวาลอยู่มากก็ตาม เสมือนการซ้อมมือครั้งใหญ่อย่างหนึ่งให้ชาวโลกเริ่มได้รับสัมผัส การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยในพื้นที่ภาคกลางมีดังต่อไปนี้ เกิดแผ่นเปลือกโลกทั้งประเทศทรุดตัวลงประมาณ 40 ฟุต เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ระหว่างที่โลกหยุดหมุนรอบตนเอง ระหว่างที่กำลังประจัญหน้าอยู่กับดาวหางในระยะใกล้ เกิดน้ำท่วมตามมาหลังจากโลกได้ย้ายขั้วใหม่ และนำขั้วโลกเดิมและพื้นที่โซนที่เคยหนาวเย็นมาอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร ทำให้ในระยะ 2 ปีให้หลังนำแข็งที่เคยปกคลุมขั้วโลกเดิมละลายทั้งหมด น้ำทะเลจะยกระดับสูงขึ้นอีก 675-700 ฟุต ประเทศไทยจะมีทะเลลึกขึ้นไปถึงนครสวรรค์ น้ำทะเลจะค่อยๆเพิ่มระดับจนสูงที่สุดในระยะะ 2 ปีให้หลังจากโลกปรับสมดุลและดาวหางได้โคจรจากไปแล้ว ทำให้อู่ข้าวอู่น้ำของภาคกลางทั้งหมดจมอยู่ในทะเล แล้วหากจะมีชาวไทยบางส่วนที่ยังประสงค์ จะอยู่อาศัยในพื้นที่ภาคกลางอยู่ต่อไปจำเป็นต้องปรับตัวเตรียมตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ จะทำได้อย่างไรนั้น ก็เชิญติดตามผมมา เพื่อรับทราบปัญหาและทำความเข้าใจกับการปรับเปลี่ยนวงจรชีวิตที่ยังเหลือรอดอยู่ ให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยท่ามกลางน้ำทะเลที่มีทั้งปลา และสาหร่ายทะเลให้มนุษย์รับประทาน แต่จะเอาข้าวที่ไหน น้ำจืดที่ไหนมารับประทานและทำการเกษตรน้ำฝนกัน มนุษย์อยู่กับธรรมชาติ ก็ต้องอาศัยธรรมชาติอยู่ดี ปัจจุบันทางประเทศเนเทอร์แลนด์ซึ่งทุกคนจะทราบว่าเดิมประเทศของเขามีพื้นที่เกือบทั้งประเทศอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 10 เมตรและผู้บริหารประเทศลงความเห็นว่า จะไม่ต่อเติมความสูงของกำแพงกันน้ำทะเลท่วมพื้นที่อยู่อาศัยและทำการเพาะปลูกอีกต่อไป มันไม่คุ้มค่าจึงเปลี่ยนมาเป็นเมืองในทะเลแทน ทั้งที่อยู่อาศัย ตลาด และโรงมโหรสพก็ตาม ใช้เรือแทนรถยนตร์ และได้ทำไปแล้วส่วนหนึ่ง เพื่อรออนาคตที่น้ำจะท่วมพื้นที่ประเทศของตนเองมากขึ้น ตามที่โลกจะเปลื่ยนแปลงปรับสมดุลใหม่ รัฐบาลของเขาจะทำความเข้าใจในอนาคตให้ประชาชนของตนเองทราบในทิศทางเดียวกันว่าจะต้องเตรียมตัวกันอย่างไร ที่จะมีชีวิตอยู่ในประเทศของตนอยู่ต่อไป ไม่สามารถย้ายไปอยู่ประทศอื่นในขณะนี้ได้ เนื่องจากที่ไหนๆก็ล้วนแล้วแต่มีเจ้าของ ต้องรอเวลาให้มีพื้นที่ไร้เจ้าของว่างลงก่อน นั่นก็จะตามมาภายหลัง หลังจากมีพลโลกเหลือรอดอยู่น้อยลงกว่าเก่า หลายๆท่านคงจะรอฟังว่าจะแก้ปัญหา และสร้างเสริมสิ่งแวดล้อมใหม่ ต่อการอยู่อาศัยในทะเลที่เคยเป็นพื้นที่ภาคกลาง ที่จะถูกน้ำท่วมไปถึงนครสวรรค์กันอย่างไร ก็ลองมาดูปัญหาต่างๆให้ชัดเจนอีกที ปัญหาที่อยู่อาศัย ต้องเป็นบ้านเรือนแพอยู่กันเป็นกลุ่มๆ เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ตามโครงการพระราชดำริที่กระทำในต่างจังหวัดให้พึ่งตนเองได้ทุกเรื่อง โดยต่างกันที่ว่าแทนที่จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปัจจุบัน 100 เมตร กลับมาอยู่กับท้องทะเลเกิดใหม่กัันเลยทีเดียว สำหรับบ้านเรือนแพก็มีหลายรูปแบบ ที่จะต้องเตรียมแพที่ถาวรอายุอยู่ได้นับร้อยปีกันเลย เช่นใช้ไม้ไผ่จากปราจีนบุรีมาทำแพ ส่วนบนที่เปียกน้ำบ้างแห้งบ้างก็ใช้ท่อพีอีอะไรประเภทนี้มาเสริม ตัวบ้านก็ทำไม่ยากเป็นแต่ว่าต้องป้องกันความหนาวได้ เก็บความอุ่นเอาไว้ในบ้านให้เหมาะแก่การอยู่อาศัย และอาศัยบ้านแบบใหม่นี้ผลิตกระแสไฟฟ้าที่จำเป็นเอาไว้ใช้เองได้ตลอดเวลาในราคาถูก สร้างรอเอาไว้บนบกรอน้ำทะเลขึ้น..ในขณะที่ยังมีวัสดุก่อสร้างต่างๆในปัจจุบัน ซึ่งจะหาได้ยากในระหว่างที่โลกปรับสมดุล....ควรทำโครงการห่างจากชายฝั่งเข้าไปไม่ต่ำกว่า 135 กิโลเมตร จากคลื่นสึนามิที่จะมีผลกระทบระหว่างโลกกำลังย้ายขั้ว เมืองลอยน้ำในประเทศเนเธอแลนด์ นอกจากที่อยู่อาศัยแล้วก็มาที่ทำกิน ซึ่งจะเตรียมแพเพาะปลูกพืชต่างๆเช่นข้าวเป็นต้น ที่อยู่หน้าบ้านในแต่ละกลุ่มที่มีบ้านล้อมอยู่โดยรอบ สะดวกแก่การดูแลและอาศัยพืชผลิตออกซิเจนให้เป็นของแถม และเพิ่มทัศนียภาพให้แก่บ้านของเรา ถัดจากที่ทำกินท่านก็จะถามหาน้ำฝน ก็เอามาจากฟ้าราคาถูก ได้ตลอดเวลาที่ต้องการเพิ่มความชื้นให้แก่ดินที่ใช้เพาะปลูกที่ 20 % ก็เพียงพอแก่พืชจะใช้สร้างความเจริญเติบโต เมื่อหาน้ำให้แก่พืชคนก็จะมีน้ำจืดจากฟ้าเก็บเอาไว้ใช้ได้ด้วยตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน   ท่านมีที่อยู่อาศัย มีน้ำ มีที่ดินทำกิน และต้องรู้วิธีเป็นหมอรักษาตนเองได้ทุกโรคอีกด้วย ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ มีคำตอบที่เชื่อถือได้ในยุคนี้ด้วยบุคลากรพิเศษจากดาวโพเพทัส มาให้ความรู้ แก่คนจำนวนมากมานับ 10 ปีแล้ว ช่วยชุบชีวิตใหม่ให้แก่ผู้ที่อยู่ติดกับความตายคืนกลับมาใหม่มากมายหลายรายทีเดียว มหัศจรรย์เนาะ! แต่เกิดขึ้นแล้ว และทุกๆคนสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ได้เอง และช่วยบุคคลที่ช่วยตนเองไม่ได้ ได้อีกด้วยไม่เกี่ยงระยะทางอีกต่างหาก มนุษย์จะเอาอะไรอีกนอกจากไม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปไกลจากที่เคยอยู่ มาอยู่ท่ามกลางท้องทะเลกับปลาทะเล สาหร่ายทะเล ที่รับประทานได้ มีแร่ธาตุอาหารมากมายเช่นต้น Klemp ต้นใหญ่ๆ เป็นอาหารของคนและสัตว์ทะเล และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำอีกด้วย...หลายๆคนจะนึกถึงอาหารใจ นอกจากอาหารกายแล้ว หลังจากโลกปรับสมดุลใหม่ ดาวหางจะนำพื้นที่ประเทศไทยไปอบู่ใกล้ขั้วโลกใต้อากาศจะหนาวเย็นไม่ต่างกับประเทศรัสเซียในปัจจุบัน ซึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือพระราชพรหมยานเถระ เคยบอกกับลูกศิษย์เอาไว้ตั้งแต่พ.ศ. 2528 กระมัง ให้เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวเอาไว้ใช้กันบ้าง ต่อไปพื้นที่ประเทศไทยจะหนาว และถึงเวลานั้นโรงงานผลิตเสื้อผ้ามันจะไม่มี เสื้อผ้าจะหายาก ก็เตรียมไปหาซื้อเสื้อผ้าถูกๆคุณภาพดี ที่มัฆวานกันได้ในขณะที่พี่น้องพันธมิตรกำลังชุมนุมอยู่มีเสื้อผ้าสวยๆราคาถูกมาก จากประเทศจีนมาให้เลือกซื้อตุนเอาไว้ใช้ในหน้าหนาว อีกไม่นานเกินรอให้เพียงพอ สำหรับแต่ละคนเอาไว้กันก่อน ก่อนที่โลกจะปรับสมดุลจะมีภัยอันตรายจากภัยพิบัตินาๆชนิดเกิดขึ้นมากมาย ที่ทุกๆท่านกำลังเห็นๆอยู่ในปัจจุบัน มีดาวหางเดินทางเข้าในขอบสุริยจักรวาลแล้ว กำลังเดินทางตรงมายังโลกอย่างเร็วรี่ทีเดียว เมื่อกำลังมีภัยที่พึ่งของมนุษย์โลกที่จะพึ่งพาได้ก็คือพระรัตนตรัย ไม่ว่าท่านจะนับถือศาสนาไหนๆก็ฝึกปรือตนเองกับพระศาสดาของท่านได้เช่นเดียวกัน สำหรับให้เรามีที่พึ่งพาทางจิตและใจได้ตลอดเวลา แม้จะกำลังเผชิญภัยอันตรายเท่าใดก็ตาม ให้เราพร้อมที่จะตายได้ตลอดเวลา และรู้จุดหมายปลายทางที่เราตั้งโปรแกรมเอาไว้ล่วงหน้า เหมือนการตั้งหัวเรือในการเดินทางไกลโดยมีหางเสือช่วยให้เรือของเราไปตรงพื้นที่เป้าหมาย เรื่องนี้สำคัญสำหรับทุกชีวิตก่อนความตายและหลังความตาย ที่จิตวิญญาณทุกดวงต้องประสบอยู่ดี แม้จะทราบหรือไม่ทราบมาก่อนก็ตาม ตั้งแต่ปลายปี 2547 เป็นต้นมา สมเด็จพระบรมธรรมบิดา ได้เริ่มมาโปรดช่วยเหลือลูกๆทั่วโลก แวะศึกษาที่ลิงค์นี้  ส่วนท่านที่ชอบสวดมนตร์แผ่ส่วนกุศลช่วยสรรพวิญญาณไปทั่วทั้ง 3 โลกพร้อมกับตัวเราด้วยทุกๆวันก็เชิญแวะได้ที่ลิงค์นี้ เว็บเพจนี้พูดถึงสิ่งใหม่ๆสำหรับหลายๆท่าน อาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอย่างกว้างขวางสำหรับบางคนที่ต้องการรู้ความเป็นไปในอนาคต และสิ่งแวดล้อมโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างนั้น ก็สามารถแวะเก็บข้อมูลต่างๆที่ลิงค์นี้ได้ และจะให้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีกก็ลองแวะที่ลิงค์นี้ บ้านพลังงานพีระมิด โมเดลสำหรับดัดแปลงเอาบันไดออกหรือปรับขนาดให้เหมาะสม เมื่อผลิตไฟฟ้าจากบ้านพีระมิดได้แล้ว ห้องน้ำต่างๆท่านก็จะมีไฟฟ้าใช้ตลอดเวลา และมีระบบประปาเหมือนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นส่วนตัวของทุกๆบ้านในโลกยุคใหม่ ถ้งย่อยกากนี้จะใช้เป็นแหล่งผลิตปุ๋ยหมักสำหรับใช้กับการเกษตรได้อย่างดี น้ำที่บำบัดดีแล้ว จะใสไม่มีกลิ่นเหม็นเหลือ จำนวน บีโอดี (BOD)เพียงประมาณ 15-20 พีพีเอ็ม เท่านั้น สามารถนำไปผสมน้ำลดผักในแปลงเกษตรได้ฟรี ไม่ต้องปล่อยให้น้ำล้นทิ้งไป โดยเพิ่มถังรับน้ำล้นส่วนนี้เพิ่มเข้าไปกับรูปตัวอย่างที่แสดงเอาไว้ อาคารส่วนกลางใช้ร่วมกัน เป็นครัว ที่พักผ่อน แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ สอนการปฏิบัติเป็นต้น ตัวอย่างการนำไฟฟ้าจากพีระมิดมาใช้งาน สำหรับบ้านพีระมิดหลังใหญ่ จะผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังจักรวาลที่มีอยู่ในไอน้ำในอากาศได้มาก โดยเพิ่มเสากลม คสล. ตรงกลางจากยอดพีระมิดลงมาที่พื้น แกนเสานี้จะเพิ่มพลังงานพีระมิดที่ไหลขึ้นสู่ยอดพีระมิดมากขึ้นและหนาแน่น นั่นคือมีประจุลบหรืออีเล็คตรอนเดินทางออกไปสู่อวกาศมากตลอดเวลานั่นเอง จึงใช้แผ่นทองแดงติดตั้งรอบเสานี้ ที่บริเวณ King Chamber บนฐานอินซูเลเตอร์ ไม่ให้แผ่นทองแดงที่ทำหน้าที่เก็บสะสมประจุลบเข้าสู่วงจรไฟฟ้าติดกับผิวของเสา และต่อสายดินเมื่อกระแสไฟฟ้าได้ผ่านหลอดไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ส่วนระบบวงจรการเก็บไฟฟ้า เป็นเรื่องไม่ยากสำหรับช่างไฟฟ้า เมื่อรู้ว่าจะได้ประจุอีเล็คตรอนจากที่ไหนแล้ว สามารถนำมาเพิ่มแรงดันให้ได้ 220-230 โวลท์ และเปลี่ยนเป็นกระแสสลับสำหรับใช้กับมอเตอร์เครื่องปั๊มน้ำ ในเครื่องเรียกฝนพีระมิด และระบบประปาในบ้าน ทุกคนสามารถฝึกจิตนึกขยายตัวบ้านพีระมิดให้ใหญ่มากขึ้นตามที่ต้องการ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้งานต่างๆ การอยู่อาศัยในประเทศไทยในอนาคต จะมีอากาศค่อนข้างหนาวคล้ายประเทศรัสเซียในปัจจุบัน หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงท่ามกลางท้องทะเลในพื้นที่ภาคกลาง หรือที่อื่นๆในประเทศไทยที่ยังเหลืออยู่ ต้องติดตั้งศูนย์ป้องกันภัยธรรมชาติ เพื่อทำความอุ่นให้แก่สิ่งแวดล้อมในรัศมี 19-30 กิโลเมตร เพื่อสะดวกแก่การอยู่อาศัย และทำเกษตรกรรมชนิดต่าง ในประเภทพืชผักผลไม้อินทรีย์ในระบบ เอ็นฟังก์ชั่น ซึ่งท่านจำเป็นต้องสำรองสินค้าเอาไว้ใช้ ในช่วงมีการเปลี่ยนแปลงโรงงานผลิตในภายหลังโลกปรับสมดุล ที่โรงงานผลิตสินค้าจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายไปอยู่ในสถานที่เหมาะสม ทางภาคเหนือเป็นต้น การอยู่ร่วมกันในโลกยุคใหม่  หลังจากโลกย้ายขั้ว จะอยู่กันแบบพึ่งพาแบบในสมัยโบราณ ร่วมมือลงแรงร่วมกัน แบ่งปันแลกเปลี่ยนสินค้าเครื่องใช้ต่างๆ อยู่กันเป็นกลุ่มๆ และมีเรือพายสำหรับใช้สอย ส่วนผู้ที่ฝึกใช้พีระมิดได้ดี อาจใช้พลังพีระมิดมาใช้งานต่างๆได้อีกหลายด้าน ศึกษาเพิ่มเติมที่ ลิงค์นี้ เชิญทุกท่าน ร่วมสร้างบุญกุศลด้วยกัน ....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพส่วนตัว ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html